top of page
ค้นหา

Kisspeptin คืออะไร แตกต่างจาก HCG ยังไง เลือกตัวไหนวิธีใช้เป็นยังไง

รูปภาพนักเขียน: Muscle MassMuscle Mass

คิสเซ็ปติน (Kisspeptin) และเอชซีจี (hCG) เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ แต่มีบทบาทและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน

คิสเซ็ปติน (Kisspeptin)

* คืออะไร: คิสเซ็ปตินเป็นฮอร์โมนโปรตีนที่ผลิตในสมองส่วนไฮโปทาลามัส มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของแกนไฮโปทาลามัส-พิทูอิทารี-โกนาโด (hypothalamic-pituitary-gonadal axis) ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมการผลิตฮอร์โมนสืบพันธุ์

* ใช้เพื่ออะไร:

* กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน (gonadotropins) ซึ่งได้แก่ ฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) และฮอร์โมนฟอลลิเคิลสติมูเลติง (FSH) ที่มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของรังไข่และอัณฑะ

* อาจใช้ในการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบควบคุมฮอร์โมนสืบพันธุ์

* ในการวิจัยมีการใช้คิสเซ็ปตินเพื่อการศึกษาการทำงานของระบบสืบพันธุ์ การคาดการณ์การแท้งบุตรในระยะเริ่มต้น

* ใช้ยังไง: โดยทั่วไปจะให้คิสเซ็ปตินโดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้าหลอดเลือดดำ

* ข้อแตกต่างกับ hCG: คิสเซ็ปตินกระตุ้นการหลั่ง LH และ FSH ในขณะที่ hCG เลียนแบบการทำงานของ LH โดยตรง

เอชซีจี (hCG)

* คืออะไร: เอชซีจี หรือฮอร์โมน Human Chorionic Gonadotropin เป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยรกในช่วงตั้งครรภ์

* ใช้เพื่ออะไร:

* ใช้ในการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตกไข่

* ใช้ในการกระตุ้นการตกไข่ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)

* ใช้ในการรักษาภาวะ hypogonadism ในผู้ชาย

* ใช้ในการตรวจการตั้งครรภ์

* ใช้ยังไง: โดยทั่วไปจะให้ hCG โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้ากล้ามเนื้อ

* ข้อแตกต่างกับคิสเซ็ปติน: hCG เลียนแบบการทำงานของ LH โดยตรง ในขณะที่คิสเซ็ปตินกระตุ้นการหลั่ง LH และ FSH

สรุปความแตกต่างที่สำคัญ:

* คิสเซ็ปตินกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนหลายชนิด (LH และ FSH) ในขณะที่ hCG เลียนแบบการทำงานของ LH เพียงอย่างเดียว

* คิสเซ็ปตินผลิตในสมอง ในขณะที่ hCG ผลิตโดยรก

* คิสเซ็ปตินมีการใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับการคาดการณ์การแท้งบุตร ในขณะที่hCG ใช้ในการตรวจการตั้งครรภ์

ข้อควรระวัง:

* การใช้คิสเซ็ปตินและ hCG ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น


* การใช้ฮอร์โมนเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาการปวดท้อง ปวดศีรษะ หรือภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS)


------------------------------------------------


ในวงการเพาะกาย Kisspeptin และ HCG มักถูกพูดถึงในบริบทของการบำบัดหลังจากการใช้สเตียรอยด์หรือเทสโทสเตอโรนเสริม (Post Cycle Therapy – PCT) เพื่อช่วยฟื้นฟูการผลิตฮอร์โมนเพศตามธรรมชาติของร่างกาย


HCG ในวงการเพาะกาย


ใช้กันมานานใน PCT เพื่อกระตุ้นอัณฑะให้กลับมาผลิตเทสโทสเตอโรนและสเปิร์มช่วยป้องกันไม่ให้อัณฑะฝ่อจากการใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานานแต่มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิด การระเบิดของเอสโตรเจน ซึ่งทำให้เกิดอาการ gynecomastia (นมโตในผู้ชาย) ได้


Kisspeptin ในวงการเพาะกาย


เป็นทางเลือกใหม่ที่อาจใช้แทน HCG ในการฟื้นฟูการผลิตเทสโทสเตอโรน


กระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมน LH และ FSH ได้โดยตรง ซึ่งเป็นสัญญาณให้ร่างกายผลิตเทสโทสเตอโรนเอง


มีแนวโน้มที่จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่า HCG และช่วยฟื้นฟูระบบฮอร์โมนได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า


สรุปว่าในวงการเพาะกายแนะนำอะไร?


1. ถ้ายังหา HCG ได้ – บางคนยังใช้ HCG ใน PCT แต่ต้องคุมระดับเอสโตรเจนด้วย Aromatase Inhibitors (AI) เช่น Arimidex


2. ถ้าหา HCG ยาก หรืออยากได้ทางเลือกใหม่ – Kisspeptin กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนธรรมชาติได้โดยตรง และลดความเสี่ยงจากเอสโตรเจนสูง


ในแง่ของ ประสิทธิภาพระยะยาว Kisspeptin อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในแง่ของ PCT ที่ปลอดภัยกว่า และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ


การใช้ Kisspeptin vs HCG ในวงการเพาะกาย


แม้ว่าทั้ง HCG และ Kisspeptin จะใช้เพื่อกระตุ้นการผลิตเทสโทสเตอโรนหลังจากใช้สเตียรอยด์ แต่มีความแตกต่างกันในแง่ของกลไกการทำงานและวิธีใช้



วิธีใช้


1. วิธีใช้ HCG ในวงการเพาะกาย


เป้าหมายหลัก: กระตุ้นอัณฑะให้ผลิตเทสโทสเตอโรนในช่วง PCT และป้องกันอัณฑะฝ่อระหว่างใช้สเตียรอยด์


📌 วิธีการใช้ (ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย)

✅ ระหว่างรอบการใช้สเตียรอยด์ (On-Cycle Support)


ใช้ 500–1,000 IU สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันอัณฑะฝ่อ


หยุดใช้ HCG ทันทีที่เลิกใช้สเตียรอยด์



✅ หลังจากจบรอบสเตียรอยด์ (PCT)


ใช้ 1,000–2,000 IU ทุกๆ 2–3 วัน เป็นเวลา 2–3 สัปดาห์


ตามด้วย SERM (เช่น Clomid หรือ Nolvadex) เพื่อช่วยฟื้นฟูการทำงานของแกน HPTA



⚠️ ข้อควรระวัง


HCG อาจเพิ่มระดับ เอสโตรเจน อย่างรวดเร็ว → อาจต้องใช้ Aromatase Inhibitor (AI) เช่น Arimidex ควบคู่กัน


ไม่ควรใช้ HCG ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายพึ่งพาแหล่งเทสโทสเตอโรนจากภายนอก


---


2. วิธีใช้ Kisspeptin ในวงการเพาะกาย


เป้าหมายหลัก: กระตุ้นการหลั่งของ LH และ FSH ตามธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูการทำงานของ HPTA หลังใช้สเตียรอยด์


📌 วิธีการใช้

✅ ใช้ในช่วง PCT (หลังจบรอบสเตียรอยด์)


Dosage: 100–300 mcg ฉีดวันละครั้ง หรือวันเว้นวัน


ใช้ต่อเนื่อง 2–4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกด HPTA


สามารถใช้ร่วมกับ Clomid หรือ Nolvadex เพื่อฟื้นฟูการทำงานของอัณฑะได้ดีขึ้น


⚠️ ข้อควรระวัง


ผลข้างเคียงของ Kisspeptin มีน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ HCG


ไม่กระตุ้นการเพิ่มขึ้นของเอสโตรเจนโดยตรง จึงลดความเสี่ยงของ gynecomastia (นมโตในผู้ชาย)


---


How to choose between kisspeptin vs hcg
How to choose between kisspeptin vs hcg

💡 สรุป: ควรเลือกใช้ตัวไหน?


✅ ถ้ายังหา HCG ได้ และคุมเอสโตรเจนเป็น → HCG ยังเป็นตัวเลือกที่ใช้กันมาก

✅ ถ้าต้องการทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า และเป็นธรรมชาติมากกว่า → Kisspeptin กำลังเป็นที่นิยมขึ้น


ในอนาคต Kisspeptin อาจกลายเป็นตัวเลือกหลักในวงการเพาะกายสำหรับ PCT เนื่องจากความปลอดภัยที่สูงกว่าและการกระตุ้นการผลิตเทสโทสเตอโรนที่เป็นธรรมชาติ




 
 
 

Comments


bottom of page